ทุกคนคงรู้จัก Facebook กับ Instagram เป็นอย่างดี แต่ยังเชื่อว่า บางคนที่ยังไม่รู้ว่า ตอนนี้ Facebook เป็นเจ้าของ Instagram ไปแล้ว แต่ความจริงที่ว่าแพลตฟอร์มของสื่อโซเชียลมีเดียที่ใหญ่ที่สุด คือ บริษัทแม่ ของ Instagram นี่คงเป็นหนึ่งเหตุผลที่การตลาดมองว่าเป็นองค์กรเดียวกัน
ถึงอย่างไรการใช้งานของ Facebook และ Instagram นั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน ถึงเป็นอีกเหตุผลที่ว่าทำไมผู้ใช้หลายๆ คนยังเก็บแอคเค้าท์
ของพวกเขาไว้ถึงแม้ Facebook และ Instagram จะมีการอัพเดทฟีเจอร์ของแต่ละแพลตฟอร์ม อย่างต่อเนื่อง แต่ในด้านการตลาดนั้นทั้งสองก็ยังมีข้อดีและข้อเสียที่ต่างกันอยู่ไม่น้อย
ตัวอย่างเช่น
Facebook ยังมีปัญหาในเรื่องของการแชร์รูปภาพที่ไม่ค่อยคมชัด
Instagram อาจจะไม่มีการแปลงภาษา หรือการตีความหมายได้ดีเท่าบน Facebook
ซึ่งความจริงแล้วฐานข้อมูลของทั้งสองแพลตฟอร์มนั้นสามารถเลือกใช้ได้อย่างแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อกับเพื่อน ครอบครัว ดารา รวมไปถึงการเลือกซื้อสินค้ายี่ห้อต่างๆด้วย
Facebook เป็นเครือข่ายใหญ่ และทันต่อเหตุการณ์
Facebook ตอนนี้เป็นที่นิยมอย่างมาก และยังมีคนที่ใช้งาน Facebook ในชีวิตประจำวันถึง 1.5 ล้านคน ซึ่งมากกว่าผู้ใช้งาน Instagram ในแต่ละวัน ถึง 4 เท่าเลยทีเดียว
จากการศึกษาพบว่า ลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายจะใช้เวลานานในการเล่น Faceebook และพบว่า คนที่ใช้ Facebook ต่างหันไปให้ความสนใจกับข่าวดังๆในสื่อโซเชี่ยลมีเดียมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน Facebook นั้นก็ยังคงมีไว้เพื่อเชื่อมต่อกับเพื่อน และครอบครัวอยู่เช่นเดิม ซึ่งการโพสต์ใน Facebook จะเป็นการโพสต์ที่มาจากความคิดของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการเมือง การจราจร สภาพอากาศ ร้านอาหารใหม่ๆ หรือเกี่ยวกับอดีตที่ผ่านมา แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นการใช้งานแบบนั้นไปทั้งหมดนะคะ ยังมีอีกหลายๆคนที่ใช้ Facebook ในการอัพเดตหรือเเลกเปลี่ยนความคิด และประสบการณ์ใหม่ๆอีกด้วย
Instagram เป็นแหล่งรวบรวมรูปภาพที่มีคุณค่า
Instagram จะเน้นในเรื่องของภาพ และในขณะเดียวกันก็ยังให้ความสำคัญกับคำอธิบายใต้ภาพและสถานที่ที่แชร์พร้อมกับรูปภาพได้ด้วย โดยการเขียนคำอธิบายใต้ภาพจะใช้คำอธิบายเพียงไม่กี่คำเท่านั้น ถือเป็นจุดเด่นของ Instagram เลยทีเดียว
Instagram มีศักยภาพในการเข้าถึงคนที่มีความชอบในด้านของการถ่ายรูปได้เป็นอย่างดี ถือเป็นการประสบความสำเร็จได้ในแพลตฟอร์มของตัวเองเลยทีเดียว และยังสามารถแสดงข้อมูลของแบรนด์ต่างๆได้ดี โดยจะเป็นการนำเสนอแบรนด์ด้วยภาพ และคำอธิบายที่เข้าใจง่ายซึ่งสร้างความประทับใจต่อแบรนด์ได้ดี และทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าไม่ได้ถูกบังคับให้จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าไม่ได้กำลังถูกบังคับให้ดูโฆษณาอยู่
การเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับแบรนด์
เราไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่า แพลตฟอร์ม Facebook กับ Instagram อันไหนที่จะช่วยในการสร้างแบรนด์ได้ดีกว่า แต่จริงๆแล้ว มันขั้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่างที่แบรนด์ ต้องนำเสนอประเภท หรือรวมไปถึงจุดประสงค์ของแบรนด์ด้วย
สมมติว่าผลิตภัณฑ์ของคุณต้องการที่จะแสดงให้ลูกค้าเห็นถึงความมีหุ่นที่ดี มีสุขภาพที่ดี หรือผลลัพธ์หลังการบริโภคสินค้า แนะนำให้ใช้ แพลตฟอร์มของ Instagram แต่ในทางกลับกันถ้าแบรนด์ของคุณต้องการมากกว่ารูปภาพสวยๆเพื่อที่จะสื่อถึงคุณค่าของผลิตภัณฑ์นั้น ก็สามารถเขียนบทความที่มีชั้นเชิง และแชร์บทความต่างๆ ไปยังเแพลตฟอร์มของ Facebook ได้เช่นกัน
สุดท้ายนี้ มันไม่ใช่เหตุผลที่จะบอกว่าทำไมคุณถึงไม่ควรใช้แพลตฟอร์มทั้งสองอย่างเหมือนๆกัน แต่เนื่องจากกลยุทธ์ที่ดีที่สุดของแบรนด์คือ การเก็บรักษาฐานข้อมูลของลูกค้าเอาไว้ และควรนำมาใช้เมื่อถึงเวลา หรือเจอกับเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานแล้วนั่นเอง
เกาะติดข่าวสารการตลาดออนไลน์ เทคนิคการโปรโมทโฆษณา
แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @ajlink ที่นี่
Fanpage : Aj Link
ติดตามข่าวสารไอที : www.ajlink.net
ที่มา : Adweek