ทุกวันนี้การขายสินค้าหรือธุรกิจจะต้องมีแบรนด์เป็นของตัวเอง ซึ่งจะทำให้ ธุรกิจ สินค้า บริการ นั้นๆ เป็นที่รู้จัก หรือจดจำผ่านเครื่องมือทางการตลาดที่ชื่อว่า แบรนด์นั่นเอง
Facebook สามารถช่วยสร้างแบรนด์ให้ผู้ใช้มือถือได้ โดยสามารถสร้างแบรนด์ได้ตั้งแต่การวางแผนแคมเปญจนถึงการวัดผลลัพธ์ ซึ่งจะมีขั้นตอนและแนวทางปฏิบัติเพื่อช่วยในการสร้างแบรนด์สินค้าผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้
- วางแผนและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
เครื่องมือการเข้าถึง ความถี่ และค่าใช้ในการวางแผนการแสดงแคมเปญของแบรนด์จะมีความแม่นยำ เข้าถึงผู้ใช้ที่ไม่ซ้ำกันและขยายการเข้าถึงในกลุ่มเป้าหมายของผู้ใช้ได้มากขึ้นโดย
– เครื่องมือนี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถวางแผนและคาดคะเนจำนวนผู้ที่เห็นแคมเปญของแบรนด์ จำนวนครั้งที่เห็น และค่าใช้จ่ายของแคมเปญได้แม่นยำมากขึ้น
– ผู้ใช้สามารถอธิบายเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์สินค้าของตัวเองและสามารถช่วยตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าเรื่องราวเหล่านั้นจะได้รับการเข้าชมตามลำดับที่ผู้ใช้ตั้งใจให้แสดง โดยการตั้งค่าลำดับในการแสดงโฆษณา และใช้การกำหนดเวลาเพื่อแสดงโฆษณาเมื่อต้องการให้ผู้คนเห็นในเวลานั้น
– การซื้อการเข้าถึงและความถี่จะสามารถใช้ได้กับประเภทของโฆษณาและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ใช้ได้เข้าถึงผู้คนที่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
สำหรับการใช้เครื่องมือดังกล่าว ผู้ใช้จะต้องกำหนดเป้าหมายที่ผู้คนอย่างน้อย 200,000 คนขึ้นไป
- ดึงดูดความสนใจด้วยรูปแบบชิ้นงานโฆษณา
เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์ของผู้ใช้ด้วยรูปแบบโฆษณาที่กระตุ้นการมีส่วนร่วม เพื่อจะให้ข้อมูลเหล่านั้นสร้างความพึงพอใจให้กับธุรกิจนั้น เช่น วิดีโอ และสไลด์โชว์ที่สร้างขึ้นสำหรับมือถือ
โฆษณาวิดีโอ
การสร้างโฆษณาวิดีโอ จะดึงดูดความสนใจด้วยวิดีโอ วิดีโอที่มีการเข้าชม 100 ล้านชั่วโมงในแต่ละวันบน Facebook โฆษณาแบบวิดีโอจะเป็นวิธีที่ดีในการใส่แบรนด์ไว้ที่ศูนย์กลางของการเชื่อมต่อส่วนบุคคลและการค้นหาผู้คน โฆษณาแบบวิดีโอสาสามารถเริ่มเล่นทันทีที่ปรากฏในฟีดข่าวของผู้เข้าชมเพื่อดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมาย
สไลด์โชว์
การสร้างสไลด์โชว์จะช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมด้วยรูปภาพเพียงไม่กี่นาที จะสามารถดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายด้วยการเคลื่อนไหว สไลด์โชว์จะมีการทำงานที่เหมือนกับวิดีโอโดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายและเวลาในการผลิต และยังใช้ข้อมูลที่น้อยกว่าวิดีโออีกด้วย โฆษณาประเภทนี้จึงสามารถแสดงบนอุปกรณ์ที่มีแบนด์วิธต่ำได้
สำหรับการปรับแคมเปญให้เหมาะสมสำหรับจำนวนการเข้าชมวิดีโอแทนราคาการประมูลค่าใช้จ่ายต่อการเข้าชม เพื่อช่วยในการเข้าถึงที่ดีที่สุดและกระตุ้นการเพิ่มที่มากขึ้นของเกณฑ์ชี้วัดแบรนด์
- วัดผลลัพธ์ของแคมเปญ
เครื่องมือการรายงานของ Facebook สามารถช่วยในการประเมินค่าผลกระทบทางการตลาดของแคมเปญของแบรนด์ เพื่อศึกษาว่าแคมเปญนั้นมีอิทธิพลต่อเกณฑ์ชี้วัดแบรนด์ เช่น การเข้าถึงและจำนวนการเข้าชมวิดีโอ
– เกณฑ์ชี้วัดประสิทธิภาพของแบรนด์
เมื่อผู้ใช้ลงแคมเปญของแบรนด์ เกณฑ์ชี้วัด เช่น การเข้าถึง จำนวนการเข้าชมวิดีโอ และค่าใช้จ่ายต่อการเข้าชมวิดีโอ (CVP) จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถวัดผลการรับรู้แบรนด์ การมีส่วนร่วม และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องได้ เกณฑ์ชี้วัดเหล่านี้จะได้รับการออกแบบให้เป็นเกณฑ์มาตรฐานที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว สำหรับการรับรู้แบรนด์เทียบกับเกณฑ์ชี้วัด เช่น จำนวนการคลิกและการมีส่วนร่วม เป็นต้น
– ปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน
การทดสอบแคมเปญด้วยกลุ่มเป้าหมายและชิ้นงานโฆษณาที่หลากหลาย เพื่อกำหนดว่าแบบใดจะกระตุ้นและมีประสิทธิภาพการทำงานของแบรนด์ได้ดีกว่า เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายและผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องของแคมเปญของแบรนด์ด้วยแคมเปญอื่นที่ซื้อผ่านสื่อดั้งเดิม เช่น โทรทัศน์ และวิทยุ เพื่อวัดประสิทธิภาพการทำงานของค่าใช้จ่ายของโฆษณาสำหรับแบรนด์ของผู้ใช้
สำหรับเทคนิคการสร้างแบรนด์บนมือถือที่นำมาฝากกัน เพื่อนๆ ก็ลองนำไปใช้ เพื่อที่จะช่วยให้แบรนด์สินค้าหรือธุรกิจมีผู้คนรู้จัก และตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ทำให้ธุรกิจเติบโตขึ้น ผู้ขายก็จะมีกำไรจากการขายสินค้าหรือธุรกิจนั้นมากขึ้นตามไปด้วย
เกาะติดข่าวสารการตลาดออนไลน์ เทคนิคการโปรโมทโฆษณา
แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @ajlink ที่นี่
Fanpage : Aj Link
ติดตามข่าวสารไอที : www.ajlink.net