การได้มาซึ่งต้นทุนต่อผลลัพธ์ต่ำสุดที่ชุดโฆษณาต้องการ (ผลลัพธ์ที่คุณเลือกในส่วน “การปรับให้เหมาะสมกับการนำส่งโฆษณา” ในการสร้างชุดโฆษณา) คือหนึ่งในสองของกลยุทธ์ราคาประมูลที่สามารถใช้ได้กับโฆษณาบน Facebook นอกจากการสั่งให้ระบบของเรารับต้นทุนต่อผลลัพธ์ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว คุณยังสามารถกำหนดการจำกัดราคาประมูล เพื่อบอกเราถึงจำนวนราคาสูงสุดที่คุณต้องการให้เราประมูลเพื่อผลลัพธ์ใดๆ ได้อีกด้วย กลยุทธ์การประมูลนี้เหมาะที่สุดสำหรับการใช้จ่ายงบประมาณของคุณให้คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะทำได้
ข้อด้อยของความคุ้มค่านั้นคือการที่ต้นทุนต่อผลลัพธ์อาจเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป หรือเมื่อค่าใช้จ่ายของคุณเพิ่มขึ้นและ/หรือการแข่งขันประมูลราคาเพิ่มขึ้น
หากคุณให้ความสำคัญกับความเสถียรในต้นทุนมากกว่าประสิทธิภาพของงบประมาณของคุณ คุณสามารถเลือกกลยุทธ์การประมูลต้นทุนเป้าหมายแทนได้ (โปรดทราบว่ากลยุทธ์สามารถใช้ได้เฉพาะกับแคมเปญจำนวนการติดตั้งแอพ คอนเวอร์ชั่น และยอดขายจากแค็ตตาล็อกสินค้า)
ฉันควรกำหนดการจำกัดราคาประมูลหรือไม่
การตั้งค่าขีดจำกัดราคาประมูลเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้ต้นทุนไม่สูงขึ้นจนเกินยอดที่คุณสะดวกใจ เราแนะนำให้กำหนดการจำกัดราคาประมูล หากเงื่อนไขบางข้อ/ทั้งหมดนี้มีผลกับคุณ
-
คุณทราบว่าชุดโฆษณาของคุณต้องได้รับผลลัพธ์เท่าใดจึงจะคุ้มค่าสำหรับคุณ
-
คุณรู้ว่าคุณสามารถใช้จ่ายได้เท่าใดในขณะที่ทำกำไรไปด้วย
-
คุณต้องการควบคุมต้นทุนสูงสุดที่คุณจ่ายสำหรับผลลัพธ์ที่ระบุ
-
คุณมีเวลาในการติดตามผลลัพธ์และปรับการจำกัดราคาประมูลตามความจำเป็น
ฉันควรกำหนดอะไรบ้างให้กับขีดจำกัดราคาประมูลของฉัน
สิ่งที่สำคัญที่สุดที่พึงคำนึงถึงเสมอในการตั้งค่าขีดจำกัดราคาประมูลคือ ถึงแม้ว่าราคาประมูลและค่าใช้จ่ายของผลลัพธ์จะมีความสัมพันธ์กัน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน แท้จริงแล้ว คุณอาจจ่ายน้อยกว่าราคาประมูลสำหรับผลลัพธ์ที่ระบุ เนื่องจากคุณจะถูกเรียกเก็บค่าบริการเป็นยอดขั้นต่ำที่เราต้องการประมูลเพื่อให้ชนะ
การนึกถึงขีดจำกัดราคาประมูลว่าเป็นเหมือนค่าสูงสุดสัมบูรณ์ที่คุณต้องการจ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ อาจช่วยให้คุณเข้าใจได้ง่ายขึ้น (เนื่องจากคุณอาจถูกเรียกเก็บเงินตามราคาประมูลเต็มจำนวน หากการประมูลโฆษณามีการแข่งขันสูง) ขณะเดียวกันก็ตระหนักว่าคุณอาจถูกเรียกเก็บเงินเป็นจำนวนน้อยกว่านั้นสำหรับผลลัพธ์จำนวนมากที่คุณได้รับ
เมื่อต้องค้นหาว่าควรตั้งค่าขีดจำกัดราคาประมูลไว้เท่าใด การพิจารณารายการต่อไปนี้อาจช่วยคุณได้
-
ข้อมูลประสิทธิภาพการทำงานในอดีต การตระหนักเสมอว่าค่าใช้จ่ายไม่ใช่เรื่องเดียวกับราคาประมูล การตรวจสอบค่าใช้จ่ายต่อผลลัพธ์โดยเฉลี่ยจากชุดโฆษณาที่ปรับให้เหมาะสมกับผลลัพธ์ที่ต้องการขณะที่คุณไม่ได้ใช้ขีดจำกัดราคาประมูล อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่มีประโยชน์ แม้ว่าจะเป็นไปได้ที่เราจะประมูลในราคาที่สูงกว่าค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยของคุณ และแนะนำให้คุณกำหนดค่าการจำกัดสูงสุดโดยสอดคล้องกันก็ตาม นี่คือข้อมูลที่มีประโยชน์เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับข้อมูลให้กับคุณ
-
ผลลัพธ์ที่ส่งผลสำหรับคุณมีมูลค่าเท่าใด หากตุณทราบว่าผลลัพธ์มีความหมายต่อคุณมากน้อยเพียงไร เช่น ยอดสูงสุดที่คุณสามารถจ่ายได้ขณะทำกำไรจากผลลัพธ์) ลองเริ่มต้นอีกทีจากตรงนั้น
-
งบประมาณของคุณเทียบกับอัตราส่วนราคาประมูล เราขอแนะนำให้ตั้งค่างบประมาณรายวันให้สูงกว่าขีดจำกัดราคาประมูลสัก 5 เท่า เพื่อให้คุณได้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมสำหรับการได้รับผลลัพธ์ที่ชุดโฆษณาต้องการประมาณ 50 รายการในแต่ละสัปดาห์ (ยอดเงินที่ต้องใช้ในการทำให้ช่วงการเรียนรู้เสร็จสมบูรณ์) หากคุณต้องการเริ่มต้นด้วยยอดขั้นต่ำ คุณสามารถแบ่งงบประมาณต่อวันออกเป็น 5 ส่วน แล้วกำหนดเป็นขีดจำกัดราคาประมูล แล้วดูประสิทธิภาพการทำงานแล้วปรับตามต้องการ
เคล็ดลับ: เวลาที่เหมาะสำหรับการตรวจดูว่าการปรับเปลี่ยนจำเป็นหรือไม่ ก็คือหลังจากที่ชุดโฆษณาของคุณได้เสร็จสิ้นช่วงการเรียนรู้แล้ว (ได้รับผลลัพธ์ที่ต้องการ 50 รายการ) ซึ่งจะมอบข้อมูลที่ค่อนข้างถูกต้องเกี่ยวกับประสิทธิภาพการทำงานของโฆษณาของคุณ หากคุณตัดสินใจแล้วว่า การปรับเปลี่ยนราคาประมูลเป็นสิ่งที่จำเป็น ให้ตรวจสอบว่าคุณได้ปล่อยให้ชุดโฆษณาของคุณได้รับผลลัพธ์อีก 50 รายการแล้ว โดยเป็นผลลัพธ์ที่ชุดโฆษณาของคุณต้องการหลังการเปลี่ยนแปลง หากไม่ใช่ คุณก็จะไม่ได้มอบโอกาสให้กับระบบของเราในการปรับการแสดงโฆษณาให้เหมาะสมโดยอิงตามขีดจำกัดราคาประมูลใหม่
จะเกิดอะไรขึ้นหากฉันไม่กำหนดการจำกัดราคาประมูล
การไม่กำหนดราคาประมูลจะทำให้เราทราบว่าเราสามารถประมูลได้มากเท่าที่จำเป็น ขณะเดียวกันก็ใช้จ่ายงบประมาณของคุณได้อย่างเต็มที่ ซึ่งหมายความว่าการดำเนินการบางอย่าง เช่น การเพิ่มงบประมาณมากๆ หรือปัจจัยอื่นๆ เช่น การแข่งขันประมูลราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน อาจทำให้ต้นทุนต่อผลลัพธ์ของคุณเพิ่มขึ้นสูงได้ และยังหมายความว่าชุดโฆษณาของคุณจะถูกปรับให้เหมาะสมเพื่อใช้จ่ายงบประมาณจนหมดเมื่อสิ้นสุดวันหรืออายุการใช้งาน (ขึ้นอยู่กับประเภทงบประมาณของชุดโฆษณา) โดยไม่คำนึงว่าผลลัพธ์ที่กำหนดนั้นจะมีราคาสูงเพียงใด เราจะพยายามรับผลลัพธ์ที่ราคาต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ให้คุณ แต่หากวิธีเดียวที่จะทำให้มั่นใจว่าจะมีการใช้จ่ายงบประมาณทั้งหมดของคุณทันเวลาคือการรับผลลัพธ์ที่ราคาสูงกว่า เราก็จะดำเนินการเช่นนั้น
การแข่งขันประมูลราคา
เมื่อคุณแสดงชุดโฆษณา ชุดโฆษณานั้นจะต้องเข้าทำการประมูลราคากับชุดโฆษณาอื่นๆ ที่พยายามเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน ผู้ชนะการประมูลราคาแต่ละครั้งจะสามารถแสดงโฆษณาต่อคนที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายนั้นได้ บางวัน/สัปดาห์/เดือน/ปีจะมีการแข่งขันสูงกว่าเวลาอื่นๆ การแข่งขันคือการที่ผู้ลงโฆษณาพยายามเข้าถึงผู้คนกลุ่มเดียวกันและเต็มใจที่จะจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น เมื่อกรณีนี้เกิดขึ้น คุณอาจพบปัญหาในการใช้งบประมาณของคุณหรือต้องจ่ายต้นทุนต่อผลลัพธ์ที่สูงขึ้น หากต้องการเข้าใจผลกระทบจากการแข่งขันประมูลราคาที่มีต่อประสิทธิภาพของชุดโฆษณา ให้ใช้แท็บ “การแข่งขันประมูลราคา” เพื่อดูผลกระทบที่การแข่งขันประมูลราคามีต่อการประมูลราคาที่คุณใกล้จะชนะมากที่สุดใการกำหนดการจำกัดราคาประมูลมีความเสี่ยงหรือไม่
อาจมีได้ หากคุณกำหนดการจำกัดราคาประมูลที่ไม่สามารถแข่งขันได้ คุณอาจไม่สามารถชนะประมูลได้เพียงพอต่อการแสดงชุดโฆษณาอย่างสม่ำเสมอ (หรือไมได้แสดงเลย) ซึ่งทำให้การใช้จ่ายงบประมาณให้หมดเป็นไปได้ยากขึ้น หากเกิดกรณีนี้ขึ้น คุณสามารถลองเพิ่มการจำกัดราคาประมูลให้สูงขึ้นหรือลบออกได้ หากไม่ได้ผล คุณยังสามารถลองปรับการกำหนดเป้าหมายและชิ้นงานโฆษณาของคุณได้ การดำเนินการดังนี้สามารถช่วยให้คุณเข้าถึงผู้คนใหม่ๆ หรือดึงดูดความสนใจของเป้าหมายของคุณซ้ำได้ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถชนะการประมูลมากขึ้นโดยที่ไม่ต้องปรับการจำกัดราคาประมูล
การกำหนดเป้าหมายหลัก
ตัวเลือกการกำหนดเป้าหมายช่วยให้คุณแสดงโฆษณาแก่ผู้คนที่สำคัญกับคุณ ดูวิธีใช้ตัวเลือกการกำหนดเป้าหมายโฆษณาของ Facebook และแสดงโฆษณาของคุณอย่างตรงเป้า
คู่มือโฆษณาบน Facebook ให้แนวทางการออกแบบสำหรับรูปแบบโฆษณาต่อไปนี้
-
วิดีโอ
-
รูปภาพ
-
คอลเลกชัน
-
Canvas
-
ภาพสไลด์
-
สไลด์โชว์
ตัวอย่าง
นี่คือตัวอย่างง่ายๆ ที่แสดงถึงวิธีการทำงานของการประมูลที่มีต้นทุนต่อผลลัพธ์ที่ต่ำที่สุดแบบที่มีและไม่มีการจำกัดราคาประมูล ในงบประมาณ 22 ดอลลาร์ วงกลมสีเขียวแสดงผลลัพธ์ที่คุณได้รับ วงกลมสีเทาคือโอกาสที่เราปล่อยไป เพื่อทำให้เข้าใจง่าย ลองสมมติว่าราคาประมูลเท่ากับต้นทุนของคุณ แต่โปรดทราบว่ากรณีนี้มักไม่ค่อยเกิดขึ้น
ชุดโฆษณาที่มีงบประมาณ 22 ดอลลาร์
ชุดโฆษณานี้จะทำให้เกิดผลลัพธ์ดังนี้:
-
9 ผลลัพธ์ โดยมีราคาเฉลี่ย 2.44 ดอลลาร์ต่อผลลัพธ์
-
ใช้ไป 22 ดอลลาร์
ชุดโฆษณาที่มีงบประมาณ 22 ดอลลาร์ และการจำกัดราคาประมูลที่ 3 ดอลลาร์
หมายเหตุ: สี่เหลี่ยมสีน้ำเงินคือผลลัพธ์ที่คุณได้รับโดยไม่มีการจำกัดราคาประมูล แต่ไม่ได้รับผลลัพธ์นั้น
ชุดโฆษณานี้จะทำให้เกิดผลลัพธ์ดังนี้:
-
8 ผลลัพธ์ โดยมีราคาเฉลี่ย 2.24 ดอลลาร์ต่อผลลัพธ์
-
ใช้ไป 18 ดอลลาร์
คุณจะเห็นว่าการที่ไม่มีการจำกัดราคาประมูลอาจนำไปสู่การใช้จ่ายที่มากขึ้นและผลลัพธ์ที่มากขึ้น แต่การจำกัดราคาประมูลจะนำไปสู่ต้นทุนต่อผลลัพธ์ที่ต่ำกว่า ในตัวอย่างนี้ ตัวเลือกคือ คุณต้องการผลลัพธ์สุดท้ายที่มีต้นทุน 4 หรือไม่ (โปรดทราบว่าการประมูลโฆษณาจริงนั้นซับซ้อนกว่านี้) หากเป้าหมายขั้นต้นของคุณคือการรับผลลัพธ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วยงบประมาณทั้งหมด เราไม่แนะนำให้ใช้การจำกัดราคาประมูล หากความกังวลหลักของคุณคือการคงต้นทุนต่อผลลัพธ์ให้ต่ำกว่ายอดที่กำหนด เราแนะนำให้ใช้การจำกัดการประมูล
เกาะติดข่าวสารการตลาดออนไลน์ เทคนิคการโปรโมทโฆษณา แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @ajlink ที่นี่ Fanpage : Aj Link ติดตามข่าวสารไอที : www.ajlink.net ข้อมูลจาก Facebook