fbpx
ก่อนที่คุณจะเริ่ม
  • กำลังพยายามโปรโมทโพสต์ แต่ไม่สามารถทำได้ใช่หรือไม่ ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

หากคุณไม่สามารถโปรโมทโพสต์จากเพจของคุณได้ ปัญหาอาจมาจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่งต่อไปนี้:

ข้อมูลไม่ครบหรือมีรายการที่รอดำเนินการตามที่เพจกำหนด:
  • ไม่มีข้อมูลการรับชำระเงินตั้งค่าวิธีการชำระเงินที่ถูกต้อง จากนั้นจึงโปรโมทโพสต์ของคุณ
  • เพจไม่ได้เผยแพร่: เผยแพร่เพจธุรกิจของคุณ จากนั้นจึงทำการโปรโมทโพสต์ของคุณ
  • สิทธิ์การอนุญาตไม่เพียงพอ (คุณต้องเป็นผู้ดูแล): ติดต่อผู้ดูแลเพจ แล้วขอให้ทำการ อัพเดตบทบาทในเพจของคุณ เป็นผู้ดูแล ผู้ลงโฆษณา ผู้ควบคุม หรือผู้แก้ไข จากนั้นจึงทำการโปรโมทโพสต์ของคุณ
  • บัญชีผู้ใช้โฆษณาปิดการใช้งาน: เปิดใช้งานบัญชีผู้ใช้โฆษณาที่ปิดการใช้งานได้โดยไปที่ ตัวจัดการโฆษณา แล้วคลิก เปิดการใช้งานอีกครั้ง ที่ด้านบนสุดของเพจ และปฏิบัติตามขั้นตอน จากนั้นจึงโปรโมทโพสต์ของคุณ
  • บัญชีผู้ใช้โฆษณาได้รับการรายงาน: บัญชีผู้ใช้โฆษณาที่ได้รับการรายงานว่ามีกิจกรรมที่ผิดปกติจะไม่สามารถโปรโมทโพสต์ใดๆ ได้ หากต้องการตรวจสอบสถานะบัญชีผู้ใช้ ให้ไปที่ ตัวจัดการโฆษณา
  • ข้อมูลเข้าสู่ระบบที่ใช้ร่วมกันถูกปิดใช้งาน: เป็นไปได้ว่าผู้ดูแลคนอื่นในบัญชีผู้ใช้ได้อัพเกรดเป็นตัวจัดการธุรกิจแล้ว เพิ่มโปรไฟล์ส่วนตัวของคุณเป็นผู้ดูแลบนเพจธุรกิจของคุณ หรือติดต่อผู้ดูแลที่ใช้การเข้าสู่ระบบร่วมกันและได้ทำการอัพเกรดบัญชีส่ง คำเชิญเข้าร่วมตัวจัดการธุรกิจ ให้คุณ
เนื้อหาเก่าหรือหมดอายุบนเพจของคุณ:
  • โพสต์งาน: หากโพสต์งานของคุณหมดอายุหรือยังไม่อนุมัติ ให้สร้างโพสต์งานแล้วโปรโมทโพสต์นั้นหลังจากได้รับอนุมัติแล้ว
  • ข้อเสนอ: หากข้อเสนอของคุณหมดอายุ ให้สร้างข้อเสนอใหม่แล้วโปรโมทข้อเสนอนั้น
  • งานกิจกรรม: หากงานกิจกรรมของคุณเกิดขึ้นแล้ว (ในวันที่ผ่านมาแล้ว) ให้สร้างงานกิจกรรมใหม่ แล้วโปรโมทงานกิจกรรมนั้น
สร้างงานกิจกรรม

วิธีสร้างงานกิจกรรมสำหรับเพจของคุณ

  1. ไปที่เพจของคุณแล้วแตะ “ตัวเลือกเพิ่มเติม” “อื่นๆ
  2. แตะ “สร้างกิจกรรม
  3. เพิ่มรูปภาพของงานกิจกรรม จากนั้นป้อนชื่อ ตำแหน่งที่ตั้ง วันที่และเวลา และหมวดหมู่ของงานกิจกรรมของคุณ คุณสามารถให้รายละเอียดอื่นๆ ได้ เช่น
    • URL ของตั๋ว: หากคุณใช้ผู้ให้บริการจำหน่ายตั๋วออนไลน์ในการจัดงานกิจกรรม ให้ใส่ลิงก์ด้วย
    • ผู้จัดงานร่วม: คุณสามารถเพิ่มเพจอื่นๆ ที่คุณช่วยจัดการและเพิ่มเพื่อนๆ (เช่น ผู้ประชาสัมพันธ์ สถานที่จัดงาน ศิลปิน) เป็นผู้จัดงานร่วมได้ ผู้จัดงานร่วมสามารถแก้ไขและเพิ่มงานกิจกรรมลงในปฏิทินของตนได้
  4. แตะ “สร้าง
การแก้ไขงานกิจกรรม

วิธีแก้ไขงานกิจกรรมสำหรับเพจของคุณ

  1. ไปที่เพจแล้วแตะ “งานกิจกรรม
  2. แตะงานกิจกรรมที่คุณต้องการแก้ไข
  3. แตะ “ตัวเลือกเพิ่มเติม” “อื่นๆ” และจากนั้นแตะ “แก้ไข
  4. แก้ไขกิจกรรม จากนั้นแตะ “บันทึก

หมายเหตุ: คุณสามารถเพิ่มหรือลบผู้จัดงานร่วมได้ แต่เมื่อเพจสร้างงานกิจกรรมแล้ว เพจจะกลายเป็นผู้จัดงานหลักและไม่สามารถลบออกได้

  • Old posts: ไม่สามารถโปรโมทโพสต์ที่เผยแพร่ก่อนวันที่ 21 มิถุนายน 2012 ได้ ให้สร้างโพสต์ใหม่แล้วโปรโมทโพสต์นั้น
  • รูปภาพหน้าปกเก่า: ไม่สามารถโปรโมทรูปภาพหน้าปกเก่า (ไม่ใช่รูปภาพหน้าปกปัจจุบันที่แสดงอยู่) อัพโหลดรูปภาพหน้าปกใหม่ แล้วจึงโปรโมท
    เพิ่มหรือเปลี่ยนรูปภาพหน้าปกเพจของคุณ

    วิธีเพิ่มหรือเปลี่ยนรูปภาพหน้าปกของเพจคุณ:

    1. ไปที่เพจของคุณ
    2. แตะ “” ที่ด้านล่างขวาของรูปภาพหน้าปกของคุณ
    3. เลือกรูปภาพจากอัลบั้มหนึ่งของคุณ หากต้องการใช้รูปภาพจาก iphone ของคุณ คุณจะต้องอัพโหลดลงบนเพจของคุณก่อน
    4. ลากรูปภาพขึ้นหรือลงเพื่อปรับเปลี่ยนตำแหน่ง แล้วแตะ “ใช้งาน
ประเภทโพสต์ที่ไม่รองรับ:

โพสต์ที่มีประเภทดังต่อไปนี้เป็นตัวอย่างของโพสต์ที่ไม่สามารถโปรโมทบนเพจได้ เพราะระบบการซื้อโฆษณาของเราไม่รองรับโพสต์ดังกล่าว:

  • รูปโปรไฟล์
  • อัลบั้ม (หมายเหตุ: สามารถโปรโมทเรื่องราวล่าสุดของอัลบั้มได้)
  • วิดีโอถ่ายทอดสดและวิดีโอถ่ายทอดสดตามกำหนดเวลา
  • โพสต์การติดตั้งแอพบนมือถือ
  • โน้ตหรือโพสต์ที่มีลิงก์ไปยังโน้ต
  • ฉบับร่าง
  • หากต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับโฆษณาที่ไม่ได้รับการอนุมัติใช่ ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

หากโฆษณาบน Facebook ไม่ได้รับการอนุมัติ คุณควรแก้ไข เพื่อให้โฆษณาเป็นไปตามนโยบายการโฆษณา การแก้ไขโฆษณาบน Facebook และบันทึกการเปลี่ยนแปลงจะเป็นการส่งโฆษณาเพื่อรับการพิจารณาใหม่อีกครั้ง คุณจะได้รับอีเมลจาก Facebook ซึ่งอธิบายว่าเพราะเหตุใดโฆษณาจึงไม่ได้รับการอนุมัติ คุณจึงควรใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขโฆษณา

เช่น หากโฆษณาของคุณไม่ได้รับการอนุมัติ เพราะคุณโฆษณาแอลกอฮอล์ในสหรัฐอเมริกา และกลุ่มเป้าหมายของคุณมีผู้ที่อายุต่ำกว่า 21 ปีรวมอยู่ด้วย คุณต้องไปที่ส่วน “การกำหนดเป้าหมาย” ในชุดโฆษณาและเพิ่มช่วงอายุของกลุ่มเป้าหมายให้เริ่มต้นจาก 21 ปีขึ้นไป โฆษณาของคุณจะผ่านกระบวนการพิจารณาอีกครั้งเมื่อคุณบันทึกการเปลี่ยนแปลง

  • คุณต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับการเก็บค่าบริการหรือไม่ทราบกิจกรรมในบัญชีผู้ใช้โฆษณาของคุณหรือไม่ ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
    1. ไปที่ “ส่วนการเรียกเก็บเงินของตัวจัดการโฆษณา” แล้วตรวจสอบข้อมูลแยกย่อยโดยละเอียดของประวัติการเก็บค่าโฆษณาและการซื้อโฆษณาบน Facebook คุณสามารถคลิกที่ ID ธุรกรรมแต่ละรายการเพื่อดูว่าธุรกรรมนั้นทำเพื่อโฆษณาชิ้นใดและดูวิธีคำนวณค่าใช้จ่าย

      หากคุณกำลังมองหาการเก็บค่าบริการเฉพาะจากรายการเดินบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิต คุณสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่เช่นกัน การเก็บค่าบริการแต่ละครั้งจะมีตัวเลขอ้างอิง 10 หลักซึ่งน่าจะอยู่ในรายการเดินบัญชีธนาคารของคุณ คุณสามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บค่าบริการได้โดยไปที่ส่วนการเรียกเก็บเงินของตัวจัดการโฆษณาแล้วคลิกที่ค้นหาจากหมายเลขอ้างอิงและทำตามขั้นตอนเพื่อขอรับบันทึกการชำระเงินของคุณ ซึ่งจะมีรายละเอียด เช่น เวลาที่คุณจ่าย วิธีการจ่าย และผลลัพธ์ของโฆษณาที่คุณจ่าย

      คุณยังสามารถตรวจทานประวัติการซื้อเพื่อดูกิจกรรมล่าสุดในบัญชีผู้ใช้โฆษณาได้อีกด้วย

    1. ตรวจสอบเพื่อดูว่าคุณมีงบประมาณต่อวันหรืองบประมาณตลอดอายุการใช้งาน ทุกครั้งที่สร้างโฆษณาใหม่ คุณจะได้เลือกงบประมาณของโฆษณาชิ้นนั้น คุณเลือกได้ว่าต้องการงบประมาณต่อวันหรืองบประมาณตลอดอายุการใช้งาน หากตั้งงบประมาณต่อวันไว้แต่ต้องการตั้งงบประมาณตลอดอายุการใช้งาน หรือในเชิงกลับกัน เราอาจเรียกเก็บเงินจากคุณต่างจากที่คาดไว้
      • งบประมาณต่อวัน: นี่คือจำนวนเงินต่อวันที่คุณระบุว่าคุณต้องการใช้จ่ายกับชุดโฆษณาใดๆ โดยเฉพาะ ชุดโฆษณาแต่ละชุดจะมีงบประมาณแยกต่างหาก ดังนั้นโปรดทราบว่าคุณมีชุดโฆษณาที่กำลังใช้งานมากกว่าหนึ่งชุดในบัญชีผู้ใช้ของคุณ โฆษณาของคุณจะหยุดแสดงโดยอัตโนมัติเมื่อครบวงเงินของงบประมาณต่อวันของชุดโฆษณาสำหรับวันนั้น เรียนรู้วิธีแก้ไขงบประมาณต่อวัน
      • งบประมาณตลอดอายุการใช้งาน: งบประมาณตลอดอายุการใช้งานจะช่วยคุณกำหนดจำนวนค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งานของชุดโฆษณา ระบบของเราจะพยายามกระจายจำนวนเงินที่คุณใช้จ่ายให้สม่ำเสมอกันตลอดช่วงระยะเวลาที่คุณเลือกโดยอัตโนมัติ เรียนรู้วิธีแก้ไขงบประมาณตลอดอายุการใช้งาน

หมายเหตุ: หากต้องการใช้จ่ายเป็นจำนวนหนึ่งตลอดอายุการใช้งานของโฆษณา ให้ตรวจสอบอีกครั้งว่าคุณตั้งงบประมาณตลอดอายุการใช้งานไว้ ไม่ใช่งบประมาณต่อวัน

  1. ดูว่าคุณใช้จ่ายถึงเกณฑ์การเรียกเก็บเงินหรือยัง เกณฑ์การเรียกเก็บเงินคือจำนวนเงินที่ควบคุมว่าคุณจะถูกเรียกเก็บเงินค่าโฆษณาเมื่อใดโดยอิงตามจำนวนเงินที่คุณใช้จ่าย

    ขณะที่คุณเผยแพร่โฆษณาบน Facebook ระบบจะเก็บสะสมค่าใช้จ่ายในการโฆษณา และเก็บค่าบริการโดยอัตโนมัติเมื่อถึงเกณฑ์การเรียกเก็บเงิน จากนั้น หากคุณยังคงแสดงโฆษณาต่อไปหลังจากที่ยอดถึงเกณฑ์การเรียกเก็บเงินแล้ว คุณจะได้รับใบเรียกเก็บเงินอีกหนึ่งใบในวันเรียกเก็บเงินประจำเดือนสำหรับยอดเงินคงเหลือในบัญชีของคุณ คุณสามารถตรวจสอบเกณฑ์การเรียกเก็บเงินได้เสมอในการตั้งค่าการชำระเงิน 

            ยอดเริ่มต้นของเกณฑ์การเรียกเก็บเงินจะขึ้นอยู่กับประเทศและสกุลเงินของบัญชีผู้ใช้โฆษณาของคุณ รวมถึงวิธีการชำระเงินที่คุณใช้เพื่อชำระค่าโฆษณา จากนั้นเมื่อคุณแสดงโฆษณาและชำระเงินสำเร็จเมื่อใดก็ตามที่ยอดถึงเกณฑ์การเรียกเก็บเงิน เกณฑ์ดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติจนกว่าบัญชีผู้ใช้ของคุณจะไปถึงเกณฑ์การเรียกเก็บเงินสูงสุด

    คุณสามารถตรวจสอบเกณฑ์การเรียกเก็บเงินของคุณได้เสมอในการตั้งค่าการชำระเงินของคุณ การทราบเกณฑ์การเรียกเก็บเงินจะช่วยให้คุณติดตามช่วงเวลาที่จะได้รับการเรียกเก็บเงินครั้งถัดไปสำหรับการโฆษณาของคุณ

    ก่อนที่คุณจะเริ่ม
    • คุณต้องการปิดการใช้งานโฆษณาบน Facebook ของคุณหรือไม่
    • คุณต้องการความช่วยเหลือเกี่ยวกับการเก็บค่าบริการหรือไม่ทราบกิจกรรมในบัญชีผู้ใช้โฆษณาของคุณหรือไม่
    • คุณกำลังพยายามเพิ่มวิธีการชำระเงินใหม่ในบัญชีผู้ใช้โฆษณาหรือไม่
    ขั้นตอนตรวจสอบเกณฑ์การเรียกเก็บเงินของคุณ
      1. ไปที่ “การตั้งค่าการชำระเงิน” ของคุณ
      2. ในส่วน “การเรียกเก็บเงินครั้งถัดไป” ให้ตรวจดูจำนวนเงินที่อยู่ถัดจาก “คุณจะได้รับใบเรียกเก็บเงินเมื่อคุณใช้จ่ายเช่นกัน”

    นี่คือเกณฑ์การเรียกเก็บเงินของคุณ คุณจะได้รับใบเรียกเก็บเงินหากคุณใช้จ่ายจำนวนเงินนี้ในขณะที่คุณแสดงโฆษณา หากคุณยังคงแสดงโฆษณาต่อไปหลังจากที่ยอดถึงเกณฑ์การเรียกเก็บเงินแล้ว คุณจะได้รับใบเรียกเก็บเงินอีกหนึ่งใบในวันเรียกเก็บเงินสำหรับค่าโฆษณาที่เหลือ

    เนื่องจากคุณอาจมีค่าใช้จ่ายถึงเกณฑ์การเรียกเก็บเงินได้หลายครั้ง คุณจึงอาจได้รับใบเรียกเก็บเงินมากกว่าหนึ่งครั้งในเดือนหนึ่งๆ ด้วยเหตุนี้เช่นกันที่คุณอาจถูกเรียกเก็บค่าบริการหลังจากซื้อโฆษณาหรือแม้แต่หลังจากที่คุณหยุดการแสดงโฆษณาไปแล้วก็ตาม

    หากคุณต้องการชำระเงินก่อนที่ยอดจะถึงเกณฑ์การเรียกเก็บเงินหรือก่อนวันเรียกเก็บเงิน คุณสามารถชำระค่าโฆษณาของคุณก่อนที่การเรียกเก็บเงินจะครบกำหนดชำระได้เสมอ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวันเรียกเก็บเงินของคุณและกำหนดเวลาที่คุณต้องชำระค่าโฆษณาบน Facebook

    ขั้นตอนเปลี่ยนเกณฑ์การเรียกเก็บเงิน

    เมื่อเปลี่ยนเกณฑ์การเรียกเก็บเงิน คุณก็ได้เปลี่ยนความถี่ในการเรียกเก็บเงินสำหรับโฆษณาด้วยเช่นกัน หากต้องการให้ระบบเรียกเก็บเงินคุณถี่กว่าเดิม คุณสามารถลดเกณฑ์ของคุณได้ หากคุณต้องการรับใบเรียกเก็บเงินน้อยกว่านี้ คุณสามารถเพิ่มเกณฑ์ของคุณได้

    วิธีเปลี่ยนเกณฑ์การเรียกเก็บเงิน

    1. ไปที่ “การตั้งค่าการชำระเงิน” ของคุณ
    2. ในส่วน “การเรียกเก็บเงินถัดไป” ให้คลิก “จัดการ
    3. คลิก “อัพเดตเกณฑ์การเรียกเก็บเงิน
    4. ป้อนยอดการเรียกเก็บเงินขั้นต่ำที่คุณต้องการใช้ แล้วคลิก “เปลี่ยนยอดการเรียกเก็บเงินขั้นต่ำ

    เกณฑ์การเรียกเก็บเงินของคุณจะได้รับการอัพเดต โปรดทราบว่าหากคุณเพิ่มเกณฑ์การเรียกเก็บเงิน การเปลี่ยนแปลงของคุณอาจยังไม่มีผลในทันที เมื่อค่าใช้จ่ายของคุณถึงเกณฑ์เบื้องต้นและชำระเงินสำเร็จ เราจะเพิ่มเกณฑ์ของคุณให้จนกว่าจะถึงจำนวนที่คุณกำหนด

  2. ตรวจสอบผู้ใช้จ่ายคนอื่นๆ ในบัญชีผู้ใช้ของคุณ หากคุณไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่เข้าถึงบัญชีผู้ใช้โฆษณาของคุณหรือวิธีการชำระเงินที่คุณใช้อยู่ เป็นไปได้ว่าคุณอาจเห็นการใช้จ่ายของคนอื่นในการเรียกเก็บเงินของคุณด้วย หากคุณสงสัยว่าเกิดกรณีนี้ขึ้น ไปที่ “การตั้งค่าบัญชีผู้ใช้” ของโฆษณาในตัวจัดการโฆษณา ในส่วน “บทบาทในบัญชีผู้ใช้โฆษณา” คุณจะเห็นคนที่เข้าถึงบัญชีผู้ใช้ของคุณได้ ติดต่อทุกคนที่คุณคิดว่าอาจได้สั่งซื้อโฆษณาด้วยวิธีการชำระเงินของคุณ

หากคุณได้ทำการตรวจสอบตามที่กล่าวมาแล้ว และยังพบการซื้อที่คุณไม่ได้รับรู้และเชื่อว่ามีคนแฮ็กบัญชีผู้ใช้โฆษณาของ

  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเป็นผู้ดูแลของบัญชีผู้ใช้โฆษณาที่คุณกำลังใช้งาน คุณจะต้องผู้ดูแลเพื่อจัดการวิธีการชำระเงิน
เพิ่มวิธีการชำระเงิน
  1. ไปที่ “การตั้งค่าการชำระเงิน” ของคุณ
  2. ในส่วน “วิธีการชำระเงิน” คลิก “เพิ่มวิธีการชำระเงิน
  3. เลือกวิธีการชำระเงินที่คุณต้องการเพิ่ม กรอกข้อมูล จากนั้นคลิก “ดำเนินการต่อ” ดำเนินการตามวิธีการเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มวิธีการชำระเงินของคุณ
ลบวิธีการชำระเงินออก

ก่อนที่จะลบวิธีการชำระเงินออก โปรดคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้

  • หากคุณพยายามลบวิธีการชำระเงินออกจากบัญชีผู้ใช้และต้องการโฆษณาใน Facebook ต่อ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้เพิ่มวิธีการชำระเงินอื่นในบัญชีผู้ใช้ของคุณไว้ก่อนแล้ว
  • หากคุณพยายามลบวิธีการชำระเงินออกจากบัญชีผู้ใช้และหยุดโฆษณาบน Facebook ไปเลย อันดับแรกให้ปิดโฆษณาของคุณก่อน รอประมาณ 30 นาที ชำระค่าบริการในบัญชีผู้ใช้ของคุณโดยชำระด้วยตนเอง จากนั้นลบวิธีการชำระเงินออก
ขั้นตอนในการลบวิธีการชำระเงิน
    1. ไปที่ “การตั้งค่าการชำระเงิน” ของคุณ
    2. ในส่วน “วิธีการชำระเงิน” ให้หาวิธีการชำระเงินที่คุณต้องการลบออก จากนั้นคลิก “ลบออก” ที่ด้านขวา
    3. ในหน้าจอยืนยัน ให้คลิก “ลบออก

หมายเหตุ: หากคุณไม่เห็นวิธีการชำระเงินของคุณ คลิก “แสดงวิธีการชำระเงินอื่น

วิธีการชำระเงินดังกล่าวจะถูกลบออกจากบัญชีผู้ใช้โฆษณาของคุณ โปรดทราบว่าหากคุณเคยเพิ่มวิธีการชำระเงินไปยังบัญชีผู้ใช้ Facebook ของคุณมาก่อน (เช่น เพื่อซื้อเกมหรือแอพ) คุณจะเห็นบัตรเครดิตนั้นอยู่ในรายการวิธีการชำระเงินของคุณ คุณสามารถลบวิธีการชำระเงินออกได้หากไม่ต้องการใช้ในบัญชีผู้ใช้ของคุณอีกต่อไป

เปลี่ยนวิธีการชำระเงินหลักของคุณ

วิธีการชำระเงินหลักเป็นวิธีการชำระเงินเริ่มต้นในบัญชีผู้ใช้ของคุณ โฆษณาใดๆ ที่คุณสร้างจะเก็บค่าบริการด้วยวิธีการชำระเงินนี้ (เว้นแต่ว่าคุณจะมีคูปองโฆษณา แล้วแต่ว่ากรณีใดจะมีการใช้จ่ายก่อน)

ขั้นตอนในการเปลี่ยนวิธีการชำระเงินหลัก
    1. ไปที่ “การตั้งค่าการชำระเงิน” ของคุณ
    2. ในส่วน “วิธีการชำระเงิน” ให้หาวิธีการชำระเงินที่คุณต้องการ จากนั้นคลิก “ตั้งเป็นวิธีหลัก
    3. ในหน้าจอการยืนยัน ให้คลิก “ตั้งเป็นวิธีหลัก

หมายเหตุ: หากคุณไม่เห็นวิธีการชำระเงินของคุณ คลิก “แสดงวิธีการชำระเงินอื่น

วิธีการชำระเงินหลักของคุณจะได้รับการอัพเดต โปรดทราบว่า หากคุณเพิ่งเพิ่มวิธีการชำระเงิน ระบบต้องตรวจสอบยืนยันวิธีการชำระเงินนั้นก่อน คุณจึงจะสามารถเพิ่มเป็นวิธีการชำระเงินหลักได้

ในขณะนี้คุณสามารถเลือกวิธีการชำระเงินหลักได้เพียงวิธีเดียวเพื่อชำระค่าแคมเปญโฆษณาทั้งหมดของคุณในบัญชีผู้ใช้โฆษณาบัญชีเดียว ในอีกนัยหนึ่ง คุณไม่สามารถชำระค่าแคมเปญโฆษณาหลายรายการพร้อมกันด้วยวิธีการชำระเงินที่แตกต่างกัน แม้ว่าคุณจะสามารถเพิ่มวิธีการชำระเงินวิธีใหม่และเปลี่ยนเปลี่ยนวิธีการชำระเงินหลักของคุณได้ก็ตาม แต่ค่าบริการของคุณจะถูกส่งไปที่วิธีการชำระเงินหลักที่แสดงในบัญชีผู้ใช้ของคุณเสมอ หากคุณสนใจในการจัดการแคมเปญโฆษณาในทั่วทุกบัญชีผู้ใช้โฆษณาหลายบัญชี (ซึ่งใช้วิธีการชำระเงินที่แตกต่างกันได้)
แก้ไขวิธีการชำระเงิน
    1. ไปที่ “การตั้งค่าการชำระเงิน” ของคุณ
    2. ในส่วน “วิธีการชำระเงิน” ให้คลิก “แก้ไข” ถัดจากวิธีการชำระเงินที่คุณต้องการอัพเดต
    3. ทำการเปลี่ยนแปลงแล้วคลิก “บันทึก

หมายเหตุ: หากคุณไม่เห็นวิธีการชำระเงินของคุณ คลิก “แสดงวิธีการชำระเงินอื่น

วิธีการชำระเงินของคุณจะได้รับการอัพเดต

เกาะติดข่าวสารการตลาดออนไลน์ เทคนิคการโปรโมทโฆษณา

แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @ajlink ที่นี่

เพิ่มเพื่อน

Fanpage : Aj Link

ติดตามข่าวสารไอที : www.ajlink.net 

ข้อมูลจาก Facebook

By Aj.Link

อาจารย์หลิง ณิฌา CEO : inDigital Co.,Ltd.