Instagram เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจอาหาร, ธุรกิจแฟชั่น, ธุรกิจความสวยงาม, ธุรกิจท่องเที่ยว, ธุรกิจรถยนต์, ธุรกิจประกันภัย หรือธุรกิจเพื่อการศึกษา การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำและนำเสนอเรื่องราวของสินค้าและบริการ สู่สายตาผู้ใช้งาน Instagram สามารถเป็นพื้นที่ประชาสัมพันธ์แคมเปญการตลาด Digital Marketing ได้ โดยการสร้างแรงบันดาลใจจากภาพ หรือคลิปวิดีโอ ในบทความนี้คุณจะได้เรียนรู้ 8 เทคนิคในการสร้างยอดขายบน Instagram 1.สร้างความน่าเชื่อถือ การเปิดร้านออนไลน์ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ดูเป็นเรื่องง่ายที่ใครๆ ก็ทำได้ แต่จะทำได้ดีคงจะต้องใช้เวลา เพื่อแข่งขันกับร้านค้าปลีกออฟไลน์หรือห้างสรรพสินค้า การสร้างยอดขายต่อเนื่องและมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมากจะต้องเริ่มสร้างโปรไฟล์ร้านค้าบน Instagram ให้มีความน่าเชื่อถือ เสมือนมีตัวตนอยู่จริง และแบรนด์ต้องชัดเจนเห็นแล้วต้องจำได้ง่ายและรับรู้ได้ทันทีว่า “ร้านนี้ขายอะไร” เพื่อสร้างร้านค้าให้มีความน่าเชื่อถือ น่าติดตาม
- ตั้งชื่อบัญชี Instagram : เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ลูกค้าค้นหาง่าย และเข้าใจได้ทันทีว่าจำหน่ายสินค้าหรือบริการอะไร
- ภาพโปรไฟล์ต้องเชื่อมโยงกับแบรนด์สินค้า : ธุรกิจส่วนใหญ่นิยมใช้โลโก้แบรนด์เป็นภาพโปรไฟล์
- คำอธิบายในส่วนโปรไฟล์ต้องครอบคลุมภายใน 150 ตัวอักษร : คุณควรกรอกข้อมูลให้กระชับได้ใจความและเพิ่มช่องทางติดต่อ เช่น มีลิงก์เว็บไซต์หลัก, Line@ และระบุเบอร์โทรไปด้วยจะดีมาก
- เล่าเรื่องผ่านภาพ
Instagram เป็นแพลตฟอร์มรูปภาพ การโพสต์รูปภาพสวยๆ ที่จุดประกายไอเดีย สร้างแรงบันดาลใจให้เป็นที่จดจำและนำเสนอเรื่องราวของสินค้าและบริการจึงเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือ ดังนั้นการเลือกภาพสินค้าหรือบริการต้องสะกดสายตาตั้งแต่วินาทีแรกที่ลูกค้าเห็นโพสต์เราบน Instagram การออกแบบ Signature Look ให้ธุรกิจสอดคล้องกับ Mood & Tone ของแบรนด์ หาสไตล์การเล่าเรื่อง รวมทั้งใช้ภาษาที่เข้าถึงง่าย 3.เข้าใจไลฟ์สไตล์ลูกค้า หากเล่าเรื่องราวธุรกิจบน Instagram แล้วแต่ไม่มีใครสนใจ หรือไม่มีการตอบรับจากลูกค้า ผู้ประกอบการจะต้องวิเคราะห์ และทำความรู้จักพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อสร้างเนื้อหาให้ดึงดูดผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น เริ่มจากการวิเคราะห์ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายโดยใช้คำถามหลัก 3W1H
- Who ลูกค้าของเราคือใคร
- What ลูกค้ามองหาอะไร
- Why ทำไมลูกค้าต้องซื้อสินค้าและบริการจากเรา
- How ลูกค้าจะพบเราได้อย่างไร มีวิธีการซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางไหน
4.คำบรรยายต้องครบถ้วน คำบรรยายบน Instagram ต้องเกี่ยวข้องกับข้อมูลสินค้าและบริการ ระบุราคาและรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมมีแฮชแท็ก (#Hashtag) ให้เข้ากับคำบรรยาย แคปชันต้องมีรายละเอียดครบถ้วน ไม่ควรยาวเหยียด และอย่าใช้แฮชแท็กสิ้นเปลืองการสร้างแฮชแท็กของธุรกิจของคุณเองจะช่วยในการค้นหาข้อมูลบนฟีดได้ง่าย 5.ดูแลลูกค้าให้ตรงประเด็น แนะนำสินค้าที่เหมาะสมกับลูกค้า ตอบคำถามเกี่ยวกับสินค้าและผลิตภัณฑ์ให้ตรงประเด็น อย่าปล่อยให้ลูกค้ารอนาน แนะนำการใช้งานและพร้อมรับ Order อยู่เสมอ รวมทั้งสร้างความประทับใจด้วยการบริการหลังการขาย 6.การซื้อสินค้าและบริการต้องเป็นเรื่องง่าย เมื่อลูกค้าอยากซื้อสินค้าหรือบริการของคุณต้องได้ซื้อ!! ด้วยฟีเจอร์ Shoppable Posts ให้เพิ่ม Shopping Bag ลงใน Instagram โดยแตะที่ป๊อปอัพไอคอนถุงช้อปปิ้งสีขาวเพื่อดูราคาและรายละเอียดเพิ่มเติม ลูกค้าสามารถกดสั่งซื้อได้ทันที โดยไม่ต้องสลับแอพพลิเคชันไปมา แต่จะเพิ่มฟีเจอร์นี้ได้คุณจะต้องมีบัญชี Shopify และบัญชี Facebook ก่อน 7.โปรโมทร้านค้าในทุกช่องทาง การโปรโมทร้านค้าเพียงช่องทางเดียวอาจทำให้ไม่เห็นผลเท่าที่ควร ดังนั้นจึงต้องโปรโมทให้ครอบคลุมทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Tumblr หรือ Pinterest การเชื่อมต่อบนช่องทางโซเชียลทุกรูปแบบเป็นช่องทางในการให้ผู้คนรู้จักร้านค้าบน Instagram ของคุณก็ เพื่อผลักดันยอดขายธุรกิจให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น เลือกเวลาที่เหมาะสมในการโพสต์ลงไอจี พิจารณาข้อมูล Instagram Insights เพื่อดูว่ามีช่วงใดที่มีผู้เข้าชมเพจมากที่สุด หรือเลือกโพสต์ช่วงที่คนว่าง หรืออยู่ระหว่างเดินทางกลับถึงบ้าน โดบเวลาที่เหมาะสมจะโพสต์ภาพลงใน Instagram แบ่งออกเป็น 3 ช่วง ดังนี้
- ช่วงเช้า 07.00 – 09.00 น. เวลาตื่นนอน ชาวเน็ตอาจเช็คข้อมูลก่อนเริ่มวันใหม่เล็กน้อย
- ช่วงเที่ยง 11.00 – 14.00 น. เป็นช่วงเวลาหยุดพักผ่อน และเล่นโซเชียล
- ช่วงเย็น 17.00 – 19.00 น. เลิกเรียนและเลิกงาน เป็นช่วงเวลาผ่อนคลายที่สุด
เคล็ดลับ : ควรเล่าเรื่องราวอย่างสม่ำเสมอ ห้ามโพสต์พร่ำเพรื่อเกินความจำเป็น ควรโพสต์วันละ 2-3 ครั้งก็เพียงพอ 8.ไฮไลท์ และคลังเรื่องราวสตอรี่ IG
8.ไฮไลท์ และคลัง Ig Story
ไฮไลท์ Ig Story จะปรากฏเป็นส่วนใหม่ในโปรไฟล์ของคุณ โดยจะอยู่ใต้ประวัติย่อ หากต้องการสร้างไฮไลท์ ให้แตะที่วงกลม “ใหม่” ซึ่งอยู่ทางซ้ายสุด จากที่นั่นคุณจะสามารถเลือก Ig Story จากคลัง เลือกรูปภาพหน้าปกและตั้งชื่อให้ไฮไลท์ เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ไฮไลท์จะปรากฏเป็นรูปวงกลมในโปรไฟล์ โดยจะแสดงเป็น Ig Story เดี่ยวๆ เมื่อมีคนแตะ ไฮไลท์จะอยู่ในโปรไฟล์ของคุณจนกว่าคุณจะลบออก และคุณสร้างไฮไลท์ได้มากเท่าที่ต้องการ หากต้องการแก้ไขหรือลบไฮไลท์ เพียงแตะไฮไลท์นั้นในโปรไฟล์ค้างไว้
ไฮไลท์ Ig Story จะช่วยทำให้ธุรกิจของคุณแสดงตัวตนให้คนได้เห็นทุกด้าน คุณสร้างไฮไลท์จากอะไรก็ได้ที่เคยแชร์ไปยังเรื่องราวของธุรกิจ จากเบื้องหลังการทำสินค้าใหม่ๆ จนถึงการยืดอายุการใช้งานแคมเปญล่าสุดในเรื่องราว ความสนใจและกิจกรรมที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณหาดูได้โดยตรงในโปรไฟล์ของคุณ
หล้งจากลง Ig Story แล้ว เรื่องราวของคุณจะได้รับการบันทึกลงในคลังโดยอัตโนมัติหลังจากที่หมดอายุแล้ว ทำให้คุณสามารถกลับไปย้อนถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาที่น่าจดจำของธุรกิจคุณได้ง่ายขึ้น หรือจะปลุกช่วงเวลานั้นกลับมาอีกครั้งด้วยไฮไลท์ก็ได้
เกาะติดข่าวสารการตลาดออนไลน์ เทคนิคการโปรโมทโฆษณา แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @ajlink ที่นี่
Fanpage : Aj Link ที่มา : businessinsider, business.instagram, Facebook, cio, wishpond, socialmediaexaminer, socialmediaexaminer, lifewire, theinspirededitorial, aggregateblog, wordstream, thrivehive